Latest Articles

ปวดท้อง ท้องเสีย เกิดจากอะไร มีวิธีรักษาเบื้องต้นแบบไหนบ้าง

ท้องเสีย หรือ ท้องร่วง (Diarrhea) เป็นอาการสุขภาพทั่วไปที่สามารถพบได้เป็นประจำในทุกเพศทุกวัย ตั้งแต่ทารกไปจนถึงผู้สูงวัย โดยอาการที่มักพบคือ การถ่ายอุจจาระที่มีลักษณะเป็นของเหลว หรือมีความผิดปกติตั้งแต่ 3 ครั้งขึ้นไปภายใน 24 ชั่วโมง

ซึ่งอาการท้องเสียเหล่านี้สามารถหายได้เองโดยธรรมชาติ หรืออาจจำเป็นต้องได้รับการรักษา และนี่คือสาเหตุ อาการ และวิธีรักษาอาการท้องเสียเบื้องต้นด้วยตนเองง่ายๆ

ท้องเสียเกิดจากอะไร ?

อาการท้องเสีย สามารถแบ่งได้เป็น 2 ประเภทย่อยๆ คือ ท้องเสียฉับพลัน และ ท้องเสียเรื้อรัง ซึ่งทั้งสองแบบก็มีสาเหตุการท้องเสียที่แตกต่างกัน ดังนี้

ท้องเสีย อาการ

ท้องเสียเฉียบพลัน

ท้องเสียแบบฉับพลัน (Acute diarrhea) คืออาการป่วยที่มีระยะเวลาไม่เกิน 2 สัปดาห์ โดยเกิดจาก 3 สาเหตุ ได้แก่

  • เชื้อไวรัส ส่งผลให้ประสิทธิภาพในการดูดซึมน้ำและเกลือแร่ลดลง จนอุจจาระมีลักษณะเป็นของเหลวคล้ายน้ำซาวข้าว ไม่มีมูกเลือดเจือปน
  • เชื้อแบคทีเรีย ส่งผลให้เกิดอาการที่แตกต่างกันตามเชื้อที่ได้รับ เช่น ทำลายเยื่อบุผิวลำไส้ส่งผลให้มีมูกสีขาวเจือปน เป็นต้น
  • สารพิษ หรืออาการท้องเสียที่รู้จักกันในชื่อ อาหารเป็นพิษ ส่งผลให้ร่างกายมีระบบขับถ่ายของเสียผ่านอุจจาระที่มีลักษณะเป็นของเหลวนั่นเอง

ท้องเสียเรื้อรัง

ท้องเสียเรื้อรัง (Chronic diarrhea) มักมีอาการมากกว่า 2 สัปดาห์ และเกิดจากสาเหตุที่หลากหลาย เช่น

  • วัณโรค ทำให้เชื้อเติบโตอย่างช้าๆ แต่ใช้ระยะเวลา มักมีอาการอื่นๆ ร่วมด้วยเช่นมีไข้ต่ำ หรือน้ำหนักลดลง
  • มะเร็งตับอ่อน หรือตับอ่อนอักเสบ ส่งผลให้ย่อยอาหารยาก ท้องอืด แน่นท้องอุจจาระมีไขมัน
  • มะเร็งหรือเนื้องอก ส่งผลให้ลำไส้ผลิตน้ำเยอะขึ้นจนอุจจาระมีลักษณะเป็นของเหลว
  • อาการอื่นๆ เช่น ผู้สูงอายุ หรือผู้ที่มีน้ำย่อยแลคเตส เป็นต้น

อาการท้องเสีย

อาการท้องเสียในผู้ป่วยแต่ละคนมีความรุนแรงแตกต่างกันไป ตามสิ่งที่รับประทานหรือเชื้อโรคที่ได้รับ โดยอาจมีอาการดังนี้

  • ปวดท้อง ปวดเกร็ง หรือปวดบิด
  • ท้องอืด ท้องเฟ้อ
  • คลื่นไส้ อาเจียน
  • มีไข้ ปวดศีรษะ
  • หน้าแดง และผิวแห้ง
  • อุจจาระมีเลือดปน
  • อุจจาระมีมูก หรือเมือกปน
  • ถ่ายอุจจาระบ่อย
ท้องเสีย ยาคาร์บอน

วิธีรักษาท้องเสียเบื้องต้นด้วยตนเอง

อาการท้องเสียในช่วงแรกสามารถรักษาได้ด้วยตนเองถ้าหากผู้ป่วยมีอาการไม่หนักมากนัก เพียงแค่ใช้ยารักษา ไปพร้อมๆกับการเลือกรับประทานอาหารที่เหมาะสม เช่นน้ำเปล่าสะอาด อาหารปรุงสุก และอาหารย่อยง่าย โดยยาที่สามารถรับประทานเองได้ ได้แก่

  • ยาคาร์บอน หรือยาผงถ่าน (Activated Charcoal) เพื่อดูดซับสารพิษที่อยู่ในทางเดินอาหาร ควรกินทุกๆ 3-4 ชั่วโมง จำนวน 2 เม็ดต่อครั้ง แต่ไม่ควรเกินวันละ 16 เม็ด
  • ผงเกลือแร่ โอ อาร์ เอส (ORS-Oral rehydration salt) เพื่อชดเชยการสูญเสียน้ำระหว่างท้องเสีย ด้วยการผสมผงเกลือแร่กับน้ำเปล่าในปริมาณที่กำหนด และจิบทีละน้อยจนหมด
  • กลุ่มยาหยุดถ่าย เพื่อลดความถี่ในการขับถ่ายอุจจาระถ้าหากยาคาร์บอนและผงเกลือแร่ไม่สามารถรักษาอาการท้องเสียได้ โดยกินครั้งแรก 2 เม็ด และหลังจากนั้นครั้งละ 1 เม็ด ไม่เกิน 8 เม็ดต่อวัน

ทั้งนี้ การรับประทานยาด้วยตนเอง ผู้ป่วยจำเป็นต้องระมัดระวังเรื่องการแพ้ยา เพราะสามารถส่งผลเสียต่อสุขภาพร่างกายจนเสียชีวิตได้

อาหารที่ไม่ควรกินเมื่อท้องเสีย

คนไข้ควรระวังการรับประทานอาหารต่างๆ ขณะมีอาการท้องเสีย ไม่เช่นนั้นอาจส่งผลให้อาการหนักกว่าเดิม โดยอาหารที่ผู้ป่วยไม่ควรกิน ได้แก่

  • เครื่องดื่มแอลกอฮอล์
  • เครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน เช่น ชา กาแฟ รวมถึงน้ำอัดลม โซดา
  • อาการสุกๆ ดิบๆ
  • อาหารที่ปรุงทิ้งไว้นาน
  • อาหารที่มีไขมันสูง เช่น แกงกะทิ น้ำมันจากเนื้อสัตว์ เนย
  • อาหารที่มีรสจัด เช่น ส้มตำ ต้มยำ ผัดเผ็ด เป็นต้น
  • ผักในตระกูลผักกาด ได้แก่ ผักกะหล่ำ ดอกกะหล่ำ บรอกโคลี
  • ผักหรือผลไม้ดอง 
  • อาหารทะเลไม่สะอาด
  • อาหารที่มีกลูเตน
  • ถั่ว
  • นม
  • ไอศกรีม

ท้องเสียแค่ไหนควรไปพบแพทย์ ?

ถ้าหากคุณรักษาอาการท้องเสียเบื้องต้นด้วยตนเอง แต่ร่างกายยังมีอาการเช่นเดิม หรือมีอาการแทรกซ้อนเหล่านี้เพิ่มเติม ควรรีบไปพบแพทย์ ได้แก่

  • เวียนศีรษะ
  • บ้านหมุน
  • เหงื่อแตก
  • ใจสั่น
  • หน้ามืด
  • เป็นลม
  • ถ่ายอุจจาระเหลวสีดำ
  • ถ่ายอุจจาระมีเลือดสีแดงปน
  • ปวดท้องรุนแรงจนท้องแข็งคล้ายแผ่นกระดาน
  • ไข้สูง หนาวสั่น
ท้องเสีย เภสัช

การรักษาท้องเสียโดยแพทย์

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะทำการซักประวัติของคนไข้ เช่น มีการรับประทานอาหารแบบใด ระยะเวลาที่มีอาการ และลักษณะของอุจจาระ หลังจากนั้นจึงให้ยาที่แตกต่างกันตามสาเหตุและอาการ ได้แก่

  • ยาปฏิชีวนะ หรือยาถ่ายพยาธิเพื่อกำจัดเชื้อแบคทีเรียและปรสิตที่อยู่ในร่างกายของผู้ป่วย
  • ยารักษาเฉพาะอาการ เป็นยาที่ใช้เพื่อรักษาสาเหตุที่แท้จริงของอาการท้องเสีย เช่น โรคลำไส้แปรปรวน โรคลำไส้อักเสบเรื้อรัง และอื่นๆ เป็นต้น
  • โปรไบโอติก หรือจุลชีพชนิดดี ที่ช่วยต่อสู้กับเชื้อแบคทีเรียซึ่งเป็นสาเหตุของอาการท้องเสียที่เกิดขึ้น

สรุป

ท้องเสีย เป็นอาการที่พบเห็นได้ในทุกช่วงวัย ซึ่งคุณสามารถป้องกันอาการดังกล่าวได้จากการระมัดระวังเรื่องสุขอนามัยให้ดี ไม่ว่าจะเป็น การรักษาความสะอาด การรับประทานอาหาร หรือสำหรับเด็กอายุตั้งแต่ 1 ปีขึ้นไปควรฉีดวัคซีนป้องกันโรตาไวรัส 

เมื่อคุณมีอาการท้องเสีย สามารถรักษาเบื้องต้นได้อย่างง่ายดาย โดยทั้งรับประทานยาที่สามารถหาได้ ณ ร้านขายยาทั่วไป หรือถ้าหากต้องการรับยาจากร้านขายยาใกล้บ้านภายใน 1ชั่วโมง สามารถเข้ามาปรึกษาเภสัชกรของเราเพื่อรับยาเพียงแค่แอด LINE  https://liff.line.me/1656211307-YZBwnXVm หรือดูรายละเอียดอื่นๆ เพิ่มเติมที่ https://medcare.asia/