ช่องคลอดติดเชื้อหรือช่องคลอดอักเสบจากเชื้อแบคทีเรียเป็นภาวะที่แบคทีเรียดีในช่องคลอดมีปริมาณลดลงจนทำให้ไม่สามารถยับยั้งการเพิ่มจำนวนของแบคทีเรียไม่ดีในช่องคลอดได้ จนช่องคลอดอักเสบและมีตกขาวผิดปกติ ทำให้เกิดอาการคันและรู้สึกปวดแสบได้ ดังนั้นจึงควรทำความรู้จักที่มาที่ไปของอาการเพื่อให้สามารถป้องกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ช่องคลอดติดเชื้อเกิดจากอะไรบ้าง
ช่องคลอดติดเชื้ออาจเกิดได้จากหลายสาเหตุ ทั้งในผู้ที่เคยมีเพศสัมพันธ์และผู้ที่ไม่เคยมีเพศสัมพันธ์ โดยเป็นผลมาจากพฤติกรรมต่าง ๆ ในชีวิตประจำวัน ได้แก่
- การสวนล้างช่องคลอด
- การทำความสะอาดบริเวณอวัยเพศอย่างผิดวิธี
- การใช้ห่วงอนามัยคุมกำเนิด
- การที่มีสิ่งแปลกปลอมอื่น ๆ สัมผัสกับช่องคลอด เช่นน้ำหอมในผ้าอนามัย หรือน้ำยาในสบู่ต่าง ๆ
- การสวมใส่เสื้อผ้าที่รัดแน่นบริเวณอวัยวะเพศจนเกินไป
- การดื่มแอลกอฮอล์หรือสูบบุหรี่จัด
- การมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกัน
- การรับประทานอาหารหมักดองหรืออาหารที่คาวมาก
หลีกเลี่ยงช่องคลอดติดเชื้อได้อย่างไร
สำหรับแนวทางการหลีกเลี่ยงไม่ให้ช่องคลอดอักเสบหรือติดเชื้อก็สามารถทำได้โดยย้อนไปดูสาเหตุที่ทำให้ช่องคลอดติดเชื้อนั่นเอง โดยการเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยงต่าง ๆ เช่น ไม่สวนล้างช่องคลอด ป้องกันให้ดีทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์ รวมไปถึงการไม่ใช้ผ้าอนามัยที่มีส่วนผสมของน้ำหอม เป็นต้น
วิธีการรักษาและป้องกันไม่ให้กลับมาเป็นอีก
การรักษาอาการช่องคลอดติดเชื้อนั้นสามารถทำได้โดยการฟื้นฟูสมดุลในช่องคลอดให้มีแบคทีเรียดีในปริมาณที่พอเหมาะ ทำให้ลดอาการอักเสบลงและยับยั้งการเพิ่มปริมาณของแบคทีเรียที่ไม่ดีได้ โดยวิธีการรักษาที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดคือการใช้ยาที่มีกรดแลคติกและไกลโคเจน เพราะจะช่วยเพิ่มจำนวนของแบคทีเรียแลคโตบาซิลลัสซึ่งเป็นแบคทีเรียดีในช่องคลอดได้
ในกรณีที่ตกขาวผิดปกติก็จะต้องใช้ยาอื่น ๆ ร่วมด้วยเพื่อรักษาตามอาการอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นจึงควรเลือกรับประทานยาภายใต้คำแนะนำของแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญ เพื่อให้สามารถรักษาได้อย่างรวดเร็วและลดโอกาสเสี่ยงที่จะมีโรคแทรกซ้อนอื่น ๆ ตามมา
ในขณะที่กำลังรักษาก็ควรงดการมีเพศสัมพันธ์ และงดการดื่มแอลกอฮอล์หรือสูบบุหรี่ไปก่อนเพื่อให้สามารถรักษาได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมไปถึงปรับพฤติกรรมอื่น ๆ เช่นการไม่ใส่เสื้อผ้าที่รัดอวัยวะเพศ และลดการใช้ผ้าอนามัยแบบน้ำหอม เป็นต้น
ยาที่ใช้ในการรักษาภาวะช่องคลอดติดเชื้อ
ตัวอย่างประเภทยาที่ใช้ในการรักษาช่องคลอดติดเชื้อได้แก่
- ยา Metronidazole มี 3 แบบ คือ แบบรับประทาน แบบทา และแบบสอด
- ยา Clindamycin มี 2 แบบ คือ แบบครีมสำหรับทา และแบบสอด
- ยา Tinidazole เป็นยาประเภทรับประทาน
- ยา Secnidazole เป็นยาประเภทรับประทาน โดยสามารถผสมกับอาหารได้แต่ต้องระวังไม่เคี้ยวตัวยา
สรุป
อาการช่องคลอดติดเชื้อหรือช่องคลอดอักเสบส่งผลให้เกิดความไม่สบายตัว ระคายเคืองบริเวณช่องคลอด ตกขาวผิดปกติ ปัสสาวะแสบ และหากปล่อยไว้นาน ๆ ยังเสี่ยงต่อการเกิดโรคแทรกซ้อนตามมาด้วย ดังนั้นจึงควรรักษาตั้งแต่เนิ่น ๆ โดยการใช้ยาในการช่วยบรรเทาอาการและปรับสมดุลแบคทีเรียในช่องคลอดให้กลับมาเป็นปกติ
ทั้งนี้การป้องกันไม่ให้ช่องคลอดติดเชื้ออีกก็สามารถทำได้โดยการหลีกเลี่ยงพฤติกรรมต่าง ๆ ที่อาจเป็นสาเหตุให้ช่องคลอดติดเชื้อได้ เช่น พฤติกรรมการใส่เสื้อผ้า การรับประทานอาหาร หรือการทำความสะอาดจุดซ่อนเร้นนั่นเอง
ช่องคลอดติดเชื้อ ช่องคลอดอักเสบเลือกกินยาตัวไหนดี? อยากเริ่มรักษาอาการช่องคลอดติดเชื้อแต่ไม่รู้ว่าควรเริ่มอย่างไร?
Medcare พร้อมให้บริการช่วยให้คุณได้ปรึกษากับเภสัชกรมืออาชีพผ่าน LINE Mini App เเละจัดหาตัวแทนไปรับยาร้านขายยามาตรฐานเพื่อนำไปส่งให้ที่บ้านของคุณได้อย่างสะดวก ปลอดภัย ไร้กังวล
คลิกเพื่อใช้บริการ >> MedCare ปรึกษาเภสัชกรทันที
เอกสารอ้างอิง :
พฤติกรรมเสี่ยงต่อการ “ติดเชื้อในช่องคลอด” ที่คุณควรเลี่ยง., Available from: https://www.canesten.co.th/behaviors-of-bacterial-vaginosis
ช่องคลอดอักเสบจากเชื้อแบคทีเรีย (Bacterial Vaginosis)., Available from: https://www.medparkhospital.com/disease-and-treatment/bacterial-vaginosis